เปิดคอมเมนต์ผู้ปกครอง หลัง ศธ.ประกาศวันเปิดเทอมอย่างเป็นทางการ

สืบเนื่องจาก กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ประกาศเลื่อนวันเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จากวันที่ 17 พฤษภาคม เป็นวันที่ 1 มิถุนายน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่อาจมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น

เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ดร.สุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) เปิดเผยว่า

 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้เตรียมความพร้อมในการจัดการเรียนการสอนเพื่อรองรับการเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้ โดยเบื้องต้นแต่ละวิทยาลัยได้จัดการรายงานตัวนักเรียน นักศึกษา การประชุมผู้ปกครอง และการปฐมนิเทศนักเรียน นักศึกษาใหม่ ผ่านรูปแบบออนไลน์ ตามบริบทของแต่ละสถานศึกษาแล้ว พร้อมกันนี้ สอศ. ได้สำรวจความพร้อมของสถานศึกษาอาชีวศึกษาทั้งภาครัฐและภาคเอกชน พบว่าจะจัดการเรียนการสอนใน 3 รูปแบบ หลักๆ คือ On-Site, Online และรูปแบบการเรียนแบบผสมผสาน (On-Site+Online) ผ่านแพลตฟอร์มในการจัดการเรียนการสอนรูปแบบออนไลน์ เช่น Zoom, Microsoft Team, Google meet และ Google classroom เป็นต้น

เลขาธิการ กอศ. กล่าวอีกว่า สำหรับการส่งเสริมความรู้ในช่วงที่ขยับเปิดเทอมออกไป 11 วัน ระหว่างวันที่ 17-31 พ.ค.นั้น สอศ.ได้เตรียมการพัฒนาผู้เรียนและครู ผ่านกิจกรรม "Think outside the box" 11 วัน 11 อาชีพ โดยการพัฒนาผู้เรียนอาชีวศึกษา และครูให้มีความพร้อม และมีทักษะที่สอดคล้องสำหรับการเรียนในรูปแบบต่างๆของสถานการณ์โควิด-19 และสมรรถนะอาชีพที่ตรงกับความต้องการของสถานประกอบการ เช่น รายวิชาการเรียนรู้ในห้องเรียนออนไลน์ ตามหลักสูตรของ Google, การเรียนรู้ผ่านสื่อการเรียนการสอน Digital Literacy รู้เท่าทันภัยไซเบอร์ จัดหลักสูตร และพัฒนาทักษะทางด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ การสนทนาภาษาอังกฤษขั้นพื้นฐาน สำหรับนักเรียน นักศึกษา และหลักสูตรการสนทนาภาษาอังกฤษระดับกลาง สำหรับครูผู้สอน ผ่านแอปพลิเคชัน NYC English การจัดให้มีการอบรมครูฝึกในสถานประกอบการ และครูนิเทศผ่านระบบออนไลน์สำหรับการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี

ในส่วนการให้ความรู้กับภาคประชาชน สอศ.ให้บริการ 3 ด้าน คือการเรียนรู้ผ่านออนไลน์ ใน 11 หมวดหมู่วิชา เช่น อาหารไทย อาหารนานาชาติ เครื่องดื่ม การจัดดอกไม้ การฝึกอบรมวิชาชีพ ในวิทยาลัยสารพัดช่าง 52 แห่ง และในสถานศึกษาสังกัด สอศ. จำนวน 115 แห่ง ในลักษณะกิจกรรมจิตอาสา อาทิ การทำเจลแอลกอฮอล์ การทำหน้ากากอนามัยแบบผ้า การซ่อมระบบสัญญาณ DLTV โรงเรียน สพฐ. เป็นต้น ซึ่งทุกกิจกรรมต้องได้รับอนุญาตจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) จังหวัดก่อน.

ด้านชาวเน็ตและผู้ปกครอง ต่างออกมาแสดงความคิดเห็นในโลกออนไลน์กันมากมาย โดยความคิดเห็นส่วนมาก ต่างเป็นห่วงบุตรหลาน อยากให้เลื่อนการเปิดเทอมออกไปจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลาย

ตัวอย่างก็เช่น

คุณ ประภาสXXX ::: รมต.ศึกษา ท่านผู้ยิ่งใหญ่ในกระทรวงอย่าทำเป็นเล่นนะ ขนาดแค่กลุ่มเล็กๆ เช่นนักกีฬาวอลเลย์บอลไม่ถึง50คนฉีดวัคซีนแล้วยังติดเชื้อยกทีม นี่ครูเป็นแสนคนฉีดครยทุกคนหรือเปล่าก็ไม่รู้ก่อนเปิดเทอมเด็กเป็นล้านคนถ้าติดเชื้อขึ้นมาคงไม่กล้าไปถามหาความรับผิดชอบจากพวกท่านหรอกเพราะมันคงไม่มี คิดให้ดีนะถ้าเกิดอะไรขึ้นมาผู้ปกครองเขาเอาตายลูกใครใครก็รักเลื่อนได้ก็เลื่อนมันไม่ได้เสียหายตรงไหนแต่ถ้าไม่เลื่อนเกิดติดเชื้อขึ้นมานี่ล่ะจะทั้งเสียทั้งหาย(หายนะ)

คุณ นายบวรภัค XXX ::: ช่วงนี้ควรรักษาชีวิตเด็กไว้ก่อนเด็กไม่ได้ความรู้คงไม่ตายหรอกแต่ถ้าเด็กติดโควิดมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าผู้ใหญ่และยังนำเชื้อที่ติดไปแพร่เชื้อที่บ้านอีกไฟลามทุ่งละตอนนี้ให้เด็กเว้นระยะห่างไม่ได้หรอกเพราะธรรมชาติของเด็กเขาต้องเล่นและไกล้ชิดกันอยู่ดีห้ามไม่ได้สงสารเด็กไทยจังครับ

คุณ Jansan XXX ::: เลื่อนไปอีกเถอะครับ จนกว่าโควิดจะจางลงถ้าเปิดไปก็เท่ากับว่าเราไปเสี่ยงน่ะครับถึงแม้จะให้ครูชีดวัคซีนเด็กก็ติดจากรถประจำทางที่อื่นมาก็ได้ครับถ้าให้ดีปิดก่อน ไม่ใช่วัวหายแล้วบอกทำไปโดยไม่ได้คิดครับ ถึงมีการควมคุมไงก็ติดครับมีมาตราการไหนมันไม่ได้เลือกน่ะครับ คุมดีแค่ไหนก็ติดอย่าให้นักเรียนอย่างเราไปเสี่ยงเลยครับ ไม่รับความคิดเห็นอย่างน้อยก็คิดสะก่อนที่จะทำอะไรน่ะครับ ทำไปแล้วมันแก้ไขไม่ง่ายน่ะครับ จากความคิดเห็นนักเรียนคนนึงครับ

คุณ ภาณี XXX :::ทำไมถึงอยากให้รีบเปิดไม่คิดเหรอว่าเด็กจะติดโควิดง่ายกว่าผู้ใหญ่ความระมัดระวังก็ยากผู้ใหญ่ว่าเน่ๆยังติดเป็นหมื่นคนแล้วเด็กหละ่จะจะจำนวนเท่าไหร่เอาอะไรคิด

ส่วนคอมเมนต์อื่นๆมีดังนี้ >>>>>