ศธ.ยันไม่เลื่อนเปิดเทอม 1 พ.ย. เน้นยืดหยุ่นให้พื้นที่ตัดสินใจ


 ศธ.ยันไม่เลื่อนเปิดเทอม 1 พ.ย. เน้นยืดหยุ่นให้พื้นที่ตัดสินใจ

เมื่อ 20 ตุลาคม น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยความพร้อมในการเปิดเรียนวันที่ 1 พฤศจิกายน ว่า ขณะนี้ ศธ.ค่อนข้างมีความพร้อมในการเปิดเรียนวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งศธ. ได้ทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มาตลอด ซึ่งขณะนี้ ศธ.และสธ. อยู่ระหว่างจัดทำเงื่อนไขในการเปิดภาคเรียน อยู่ระหว่างปรับรายละเอียดให้มีความเหมาะสมและเน้นความปลอดภัยเป็นหลัก คาดว่าจะได้ความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งวันที่ 1 พฤศจิกายน ศธ.มีความพร้อมในการเปิดภาคเรียนแน่นอน แต่ต้องดูความพร้อมของโรงเรียนด้วยว่าจะเปิดเรียนในรูปแบบใด และความพร้อมในที่นี้จะต้องผ่านเกณฑ์ที่กำหนดช่น การฉีดวัคซีนให้ครูและนักเรียน ควรจะฉีดได้จำนวนเท่าใดถึงจะสามารถเปิดเรียนในรูปแบบ On Site ได้ เป็นต้น ซึ่ง ศธ.จะแถลงกรอบในการเปิดภาคเรียนอีกครั้งในสัปดาห์หน้า

 ศธ.ยันไม่เลื่อนเปิดเทอม 1 พ.ย. เน้นยืดหยุ่นให้พื้นที่ตัดสินใจ

" ขณะนี้นักเรียนได้รับวัคซีนกว่า 40% แล้ว ดังนั้น ถ้าโรงเรียนไหนมีความพร้อม ทำตามมาตฐานทีากำหนด ก็สามารถเปิดเรียนในรูปแบบ On Site ได้ อย่างไรก็ตาม เกณฑ์ที่กำหนดนั้นเป็นเกณฑ์กลางที่ให้โรงเรียนนำไปปฏิบัติเท่านั้น การเปิดเรียนในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ไม่ว่าจะเปิดเรียนในรูปแบบใดก็ตาม ต้องได้รับการอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดด้วย เพราะแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างหลากหลาย มองว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ซึ่งเป็นผู้รู้จักพื้นที่ของตนดีที่สุด ต้องมีส่วนร่วมในการพิจารณาด้วย เช่น ในจังหวัดที่อยู่พื้นที่สีแดงเข้ม แต่ในบางตำบล อาจจะไม่มีการระบาด โรงเรียนในพื้นที่นั้นก็อาจจะเปิดภาคเรียนแบบปกติได้" น.ส.ตรีนุช กล่าว

 ศธ.ยันไม่เลื่อนเปิดเทอม 1 พ.ย. เน้นยืดหยุ่นให้พื้นที่ตัดสินใจ

รัฐมนตรีว่าการ ศธ. กล่าวต่อว่า ศธ.พยายามให้การเปิดเรียนนั้นมีความยืดหยุ่น โดยให้แต่ละจังหวัดเป็นผู้ตัดสิน ที่สำคัญโรงเรียนจะต้องรักษามาตรการที่สธ.กำหนดอย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการรักษาระยะห่าง การทำความสะอาด เป็นต้น 

ส่วนเรื่องการตรวจ ATK ก่อนเปิดเรียนนั้น จากการหารือร่วมกับ สธ. เห็นตรงกันว่าการตรวจ ATK อาจไม่มาใช้เป็นเกณฑ์ตัดสินในการเปิดภาคเรียน แต่อาจจะนำ ATK มาใช้ในพื้นที่ ที่มีความสุ่มเสี่ยงต่อการระบาด หรือนำมาใช้ตรวจหลังจากเปิดเรียนแล้วพบการติดเชื้อ ซึ่งโรงเรียนจะต้องประสานกับโรงพยาบาลในพื้นที่เพื่อทำการสุ่มตรวจหาเชื้อต่อไป


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์