ดัน ‘เชียงใหม่’ ฮับการศึกษา ดึงคน ตปท.เข้าโรงเรียนนานาชาติ


ดัน ‘เชียงใหม่’ ฮับการศึกษา ดึงคน ตปท.เข้าโรงเรียนนานาชาติ


‘เชียงใหม่' ชูเป็นฮับการศึกษา ดึงต่างชาติเข้าโรงเรียนนานาชาติ-ทุนจีนเริ่มเทคโอเวอร์แล้ว!

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม นายอาคม สุวรรณกันธา รองประธานกรรมการหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ภาคการท่องเที่ยวภาคเหนือที่นักท่องเที่ยวบางตา เนื่องจากเป็นช่วงโลว์ซีซั่น เพราะช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายน เป็นไฮซีซั่นตรงกับช่วงที่มีฝุ่นควัน เมื่อเข้าสู่เดือนพฤษภาคมจะเป็นหน้าฝนที่ทำให้ฝุ่นเบาลง อีกทั้งการคาดการณ์นักท่องเที่ยวจีนยังไม่เป็นไปตามเป้า เพราะกระบวนการขอวีซ่าประเทศจีนยังไม่เอื้ออำนวยให้เดินทางเข้าประเทศไทยมากนัก

อย่างไรก็ตาม จะมีกลุ่มนักเรียนและนักศึกษาที่กลับเข้า จ.เชียงใหม่ มากขึ้น และเป็นกลุ่มที่เข้ามาเรียนในโรงเรียนนานาชาติที่ไทย มีประมาณ 25 โรงเรียน ซึ่งการพัฒนาด้านการศึกษาจะผลักดันให้เกิดเป็นเอดูเคชั่นฮับของ จ.เชียงใหม่ ดึงกลุ่มนักเรียนในต่างประเทศเข้าไทย นอกจากนี้ นักเรียนในโรงเรียนจะผสมกันระหว่างคนไทยและชาวต่างชาติ โดยประเมินเงินหมุนเวียนจากธุรกิจมากกว่า 5 หมื่นล้านบาทต่อปี

"จะเห็นกลุ่มนักเรียนที่เคยลงทะเบียนเรียนไว้ แต่มาไม่ได้เพราะติดโควิด พอสถานการณ์เริ่มคลี่คลายก็มีนักเรียนที่เป็นคนจีนทยอยเข้าไทยบ้างแล้ว"
นายอาคมกล่าว

นายอาคมกล่าวว่า
ขณะนี้โรงเรียนในไทยได้เปิดรองรับกลุ่มคนจีนโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีรายได้สูงเมื่อเปรียบเทียบกับไทย ขณะเดียวกันก็เป็นกลุ่มรายได้ปานกลางถ้าเปรียบกับคนในประเทศจีน ซึ่งคนกลุ่มนี้พยายามหาที่เรียนที่เหมาะสม และที่ จ.เชียงใหม่ ก็เหมาะสม รองลงมาก็ที่ จ.ภูเก็ต และไม่รวมที่กรุงเทพฯ ซึ่งหลายๆ ที่เริ่มมีทุนจีนเข้ามาสร้าง หรือเทคโอเวอร์โรงเรียนนานาชาติบ้างแล้ว

"จ.เชียงใหม่ คล้ายๆ กับกรุงเทพฯที่ชาวจีนจะเข้ามาพำนักระยะยาว โดยที่ไม่ได้มาเฉพาะนักเรียน แต่มาถึงผู้ปกครองที่เดินทางเข้าไทย เพื่อมาเช่าบ้านอยู่ระยะยาว ซึ่งจะสร้างนักท่องเที่ยวให้อยู่ระยะยาว รวมถึงจะเป็นผลบวกจากรายได้ในไทยจะเกิดเงินหมุนเวียนมากขึ้น" นายอาคมกล่าว

นายอาคมกล่าวว่า
ขณะนี้โรงเรียนในไทยได้เปิดรองรับกลุ่มคนจีนโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีรายได้สูงเมื่อเปรียบเทียบกับไทย ขณะเดียวกันก็เป็นกลุ่มรายได้ปานกลางถ้าเปรียบกับคนในประเทศจีน ซึ่งคนกลุ่มนี้พยายามหาที่เรียนที่เหมาะสม และที่ จ.เชียงใหม่ ก็เหมาะสม รองลงมาก็ที่ จ.ภูเก็ต และไม่รวมที่กรุงเทพฯ ซึ่งหลายๆ ที่เริ่มมีทุนจีนเข้ามาสร้าง หรือเทคโอเวอร์โรงเรียนนานาชาติบ้างแล้ว

"จ.เชียงใหม่ คล้ายๆ กับกรุงเทพฯที่ชาวจีนจะเข้ามาพำนักระยะยาว โดยที่ไม่ได้มาเฉพาะนักเรียน แต่มาถึงผู้ปกครองที่เดินทางเข้าไทย เพื่อมาเช่าบ้านอยู่ระยะยาว ซึ่งจะสร้างนักท่องเที่ยวให้อยู่ระยะยาว รวมถึงจะเป็นผลบวกจากรายได้ในไทยจะเกิดเงินหมุนเวียนมากขึ้น"
นายอาคมกล่าว

นายอาคมกล่าวด้วยว่า
ไม่กังวลว่าจะมีการปิดโรงเรียน แม้ที่ผ่านมาจะมีกระแสการเรียนออนไลน์ และต้นทุนค่าใช้จ่ายในโรงเรียนสูง จึงทำให้โรงเรียนทยอยปิดตัวลง ขณะนี้ไม่มีความกังวล เพราะเป็นช่วงเรียกว่ารีบาวด์ หรือเทคโอเวอร์ของสถาบันการศึกษา และจะมีการเดินทางมาทำงานของครูต่างประเทศ รวมถึงนักเรียนต่างประเทศมากขึ้น เพราะเมื่อหยุดเรื่องการเรียนที่บ้าน หรือเรียนออนไลน์แล้ว เนื่องจากกังวลนักเรียนขาดทักษะเรื่องโซเชียลสกิล และเกิดความเบื่อหน่าย ดังนั้น กระแสการกลับมาเรียนออฟไลน์ หรือออนไซต์จะมากขึ้น

เรื่องการจ้างครูผู้สอน นายอาคมระบุว่า
ถ้าโรงเรียนนานาชาติ 100% โดยปกติจะต้องจ้างครูต่างประเทศเข้ามาสอนด้วยวิธีการที่ถูกต้อง ตั้งแต่การขอใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย ซึ่งรายได้และการใช้จ่ายของคนกลุ่มนี้ก็วนเวียนในพื้นที่ที่ทำงาน

"ขณะเดียวกันระบบเอกชน หรือเรื่องของวิชาชีพครูก็ไม่ได้รับผลกระทบ เพราะยังมีโรงเรียนภาครัฐและโรงเรียนหลายๆ แห่งรับครูผู้สอนเข้าทำงาน ทั้งนี้ ครูคนก็ต้องอัพสกิลมากขึ้นเรื่องการพัฒนาขีดความสามารถเรื่องการเรียน การสอน 2 ภาษาให้มากขึ้น"
นายอาคมกล่าว


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์