ทปอ.สรุปหลักการ ทีแคส รายงานนายกฯ

ตั้งทีมถ่ายทอดเทคโนฯรถไฟความเร็วสูง ถกเสมา1ช่วยนศ.ฝึกสอน

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่มหาวิทยาลัยบูรพา ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังในฐานะประธานอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) เผยภายหลังการประชุม ทปอ.ว่า ที่ประชุมสรุปผลการรับบุคคลเข้าศึกษาต่อในสถาบันอุดมศึกษา ในระบบแอดมิชชั่นกลางปีการศึกษา 2560 ซึ่งในภาพรวมพบว่าจำนวนที่นั่งเรียนมีมากกว่าผู้สมัครเข้าเรียน ทปอ.จึงได้ขอให้ทุกมหาวิทยาลัยปรับปรุงหลักสูตรและรูปแบบการรับให้เหมาะสม ส่วนการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในระบบ กลาง Thai university Central Admission System(TCAS) หรือทีแคส ซึ่งจะเริ่มปีการศึกษา 2561 โดยกระบวนการจะเริ่มต้นในเดือน ต.ค.นี้ ทปอ.จะสรุปความคืบหน้าและแจ้งให้นักเรียนทราบทางเว็บไซต์ นอกจากนี้ ทปอ.ยังได้สรุปหลักการของทีแคสเพื่อเสนอสำนักนายกรัฐมนตรีด้วย เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอทราบหลักการทีแคสและความแตกต่างระหว่างทีแคสกับระบบการรับนักเรียนในระบบเดิม

ประธาน ทปอ.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ที่ประชุม ยังได้หารือถึงโครงการรถไฟความเร็วสูงระหว่างไทยกับประเทศจีน โดยมีมติว่า ทปอ.จะทำหนังสือถึงนายกฯ ว่าทปอ.จะเป็นศูนย์กลางร่วมกับประเทศจีน โดยจะตั้งคณะกรรมการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับระบบรางและด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้องให้กับนักศึกษาที่กำลังจะออกไปเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาโครงการและเพื่อต่อยอดให้โครงการนี้ยั่งยืน ส่วนเรื่องการเปิดปิดภาคเรียนยังไม่มีการหารือกัน ต้องรอผลการวิจัยก่อน โดยสมาชิก ทปอ. ส่วนใหญ่ยังยืนยันเปิดปิดภาคเรียนตามอาเซียน เนื่องจากเห็นว่าการเปิดปิดดังกล่าวจะมีประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยไทย นักศึกษา และทางรอดของการศึกษาไทยในอนาคต เพราะขณะนี้จำนวนนักศึกษาลดลง เรื่อยๆ ขณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยไทยมีศักยภาพและความเข้มแข็งในเรื่องของหลักสูตร การวิจัยที่มาตรฐานระดับโลก ดังนั้นในอนาคตต้องเติมเต็มด้วยนักศึกษาในภูมิภาคอาเซียน ส่วนเรื่องที่สภาคณบดีคณะครุศาสตร์ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทยขอให้ ทปอ.ทบทวนการเปิดปิดภาคเรียนตามอาเซียนเนื่องจากมีผลกระทบในเรื่องนิสิตนักศึกษาไปฝึกสอนนั้น ทปอ.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดย ทปอ.จะหารือกับ รมว.ศึกษาธิการ ซึ่งดูแลสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.)ให้ไปช่วยดูเรื่องการฝึกสอนที่เหมาะสมต่อไป.