หลักสูตรปริญญาเอกเน้นคนเก่งหรือคนดี?

หลักสูตรปริญญาเอกเน้นคนเก่งหรือคนดี?

ชีวิตผมผ่านการเรียนระดับปริญญาเอกสองครั้ง ครั้งแรกเป็นนิสิตปริญญาเอกสาขาวิชาจิตวิทยาการศึกษารุ่นแรกที่คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรียนจบครบรายวิชา และสอบผ่านขั้นตอนต่างๆ ตามที่หลักสูตรกำหนด เหลือแต่วิทยานิพนธ์ อาจารย์ก็ชวนให้เป็นอาจารย์ที่คณะ ผมก็สมัครเป็นอาจารย์ และก็ได้เป็นอาจารย์ที่คณะ สอนอยู่หนึ่งปีก็สอบชิงทุนของจุฬาฯไปเรียนปริญญาเอกสาขาวิชาปรัชญาการศึกษา ที่มหาวิทยาลัยมินนิโซตา ซึ่งเป็นการเรียนปริญญาเอกครั้งที่สองของผม ที่มินนิโซตาผมได้โอกาสเรียนทางด้านการศึกษาและการวิจัยอนาคตด้วย

การ เรียนปริญญาเอกทั้งสองครั้ง ตามหลักสูตรที่แต่ละแห่งกำหนด ที่เน้นเหมือนกันคือการเน้นความเป็นนักวิชาการ มีกฎ ระเบียบ มาตรฐาน ประเพณี พิธีการ และพิธีกรรมมากมาย

ไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลักสูตร ระดับบัณฑิตศึกษา โดยเฉพาะระดับปริญญาเอกเน้นความเป็นเลิศ (ความเก่ง) ทางวิชาการ แต่น่าสนใจว่า ทำไมไม่เน้นความเป็นเลิศทางความดีความงามด้วย

ทำไมต้องแยกความเป็นเลิศทางวิชาการออกจากความดีความงาม?

ความรู้ควรเคียงคู่กับคุณธรรมหรือไม่?

มี แต่ความรู้ แต่ขาดคุณธรรม ขาดความดีความงาม ก็อาจใช้ความรู้นั้นๆ เพื่อตอบสนองประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง ใช้ความรู้ที่มีไปทำร้าย ทำลายผู้อื่น สิ่งแวดล้อม สังคม และสรรพสิ่งได้ ศาสตร์ที่มีก็กลายเป็นศาสตราวุธที่มีอำนาจทำลายร้ายแรงได้

หรือระบบการศึกษายุคใหม่ในปัจจุบัน ถูกครอบด้วยระบบคิดและวิธีปฏิบัติของทุนนิยมไปโดยเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว?

ต้อง เก่งเหนือผู้อื่น ต้องมุ่งสู่ความเป็นที่หนึ่ง ต้องชิงความได้เปรียบ ต้องเอาตัวรอด ต้องยึดผล (Result Based) โดยไม่คำนึงถึงวิธีการที่ได้มาว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องดีงามหรือไม่

หรือ การศึกษากลายเป็นธุรกิจไปแล้ว? การจัดการศึกษาต้องคุ้มทุนหรือมีกำไร ถ้าไม่คุ้มทุน เพราะลูกค้าน้อย ไม่มีกำไรก็ต้องปิดกิจการ (หลักสูตร)

สาขาวิชาปรัชญาการศึกษาถูกปิดเพราะลูกค้าลด สาขาบริหารการศึกษาเปิดมากมายเพราะลูกค้ามาก

 

ตกลงการศึกษาเป็นกระบวนการในการสร้างและพัฒนาคนหรือเป็นการค้า การดำเนินธุรกิจทางการศึกษา?

ตกลงการศึกษาระดับปริญญาเอกเป็น

กระบวนการ ในการปรับวุฒิ และเพิ่มโอกาสในการเป็นผู้บริหาร หรือสร้างความเป็นเลิศทางวิชาการควบคู่กับการเป็นคนดีมีคุณธรรมทั้งผู้เรียน และผู้สอน

ผมโชคดี มีโอกาสได้ทำโครงการวิจัยที่น่าสนใจมากเรื่องหนึ่งในปีนี้ คือ "โครงการวิจัยและประเมินผลการจัดการศึกษาระดับปริญญาเอก" ใช้วิธีวิจัยที่หลากหลาย เช่น การวิจัยเอกสาร การสัมภาษณ์ Oral History แบบสอบถาม การประชุมกลุ่ม Focus Group และการประชุมทีมวิจัยงานวิจัยนี้ยังดำเนินการอยู่ ยังไม่เสร็จ มีวัตถุประสงค์หลักสามประการคือ

1.เพื่อสังเคราะห์ปรัชญาแนวคิดการ จัดการศึกษาระดับปริญญาเอกในประเทศคัดสรร ได้แก่อังกฤษ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี สหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น

2.เพื่อศึกษาพัฒนาการของการจัดการศึกษาระดับปริญญาเอกของประเทศไทย

3.เพื่อประเมินคุณภาพการจัดการศึกษาระดับปริญญาเอกของสถาบันอุดมศึกษาไทย

โดย มารยาทและธรรมเนียมปฏิบัติผมยังไม่สามารถเปิดเผยผลการวิจัยได้ แต่ผมนำมาเล่าเป็นส่วนเสริมบทความนี้ว่า งานวิจัยชิ้นนี้ทั้งในเชิงเอกสาร การสัมภาษณ์ และการทำ Focus Group กับผู้ทรงคุณวุฒิ ก็เน้นเรื่องของความเป็นนักวิชาการ และความเป็นเลิศทางวิชาการเป็นหลัก ยังไม่พบว่ามีการจัดการหลักสูตรระดับปริญญาเอกในประเทศคัดสรร และของไทยซึ่งมีการเปิดหลักสูตรระดับปริญญาเอกมากกว่าหนึ่งพันสองร้อย หลักสูตร ระบุว่ามีการเน้นในเรื่องความเป็นคนดีควบคู่ไปกับความเป็นเลิศทางวิชาการ อย่างชัดเจน

ตกลงเรื่องความดี ความเป็นคนดี ไม่ใช่คุณลักษณะที่พึงประสงค์และ/หรือสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียนระดับ ปริญญาเอกใช่หรือไม่? หรือทึกทักว่าผู้เรียนเป็นคนดีอยู่แล้วจึงไม่มีการเน้นเรื่องนี้ในหลักสูตร

ไม่ ว่าจะเป็นส่วนของปัจจัย (Input) กระบวนการ (Process) หรือผลผลิต (Output) ยังมิต้องพูดถึงผลลัพธ์ (Outcome) และผลกระทบ (Impact) ของการจัดการหลักสูตรระดับปริญญาเอก

 

และที่น่าสนใจมากกว่า นั้นก็คือ เรื่องความดี ความเป็นคนดี ควรเป็นคุณสมบัติที่พึงประสงค์ของผู้สอนในระดับปริญญาเอกหรือไม่ หรือจะดูแค่ว่ามีคุณวุฒิตรงตามสาขาที่จะสอนหรือไม่เท่านั้น

ทั้งหมด ที่เขียน เป็นข้อสังเกตที่ผมตั้งขึ้นมา เป็นการสะท้อนจากประสบการณ์ตรงของตนเองที่ผ่านการเรียนระดับปริญญาเอกมาสอง หลักสูตร และการสอนระดับปริญญาเอกทั้งที่จุฬาฯและมหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศ

การ จ้างและรับจ้างทำรายงาน และวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาเอกของนิสิตนักศึกษาและอาจารย์ คงไม่มีปรากฏเป็นข่าวอยู่บ่อยๆ ถ้าความดีและความเป็นคนดีเป็นคุณลักษณะที่พึงประสงค์ หรือสมรรถนะที่พึงมีของผู้เรียนและผู้สอนระดับปริญญาเอก


Cr.คอลัมน์ จิตวิวัฒน์
โดย จุมพล พูลภัทรชีวิน www.thaissf.org, twitter.com/jitwiwat 

สนับสนุนโดย มูลนิธิสดศรี-สฤษดิ์วงศ์
ที่มา นสพ.มติชนรายวัน

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์