เมื่อวันที่ (31ต.ค.) ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ประจำปี 2559 ไปแล้ว นั้น ขอชี้แจงว่าหลักเกณฑ์ฯดังกล่าวจะใช้ในการคัดเลือกผอ.สถานศึกษาแทนตำแหน่งที่ว่างและอัตราเกษียณอายุราชการเฉพาะปี 2559 เท่านั้น ส่วนการคัดเลือกปีต่อไปจะใช้หลักเกณฑ์ใหม่ ซึ่ง ก.ค.ศ.กำลังดำเนินการยกร่าง สำหรับการคัดเลือกรองผอ.สถานศึกษาในปี 2559 นี้ ที่ประชุมได้มอบให้สำนักงาน ก.ค.ศ.ไปศึกษาว่าควรจะจัดทำหลักเกณฑ์ใหม่เพื่อใช้ในการคัดเลือกรองผอ.สถานศึกษา หรือใช้หลักเกณฑ์เดิมที่มีอยู่แล้วไปก่อน โดยให้นำเสนอต่อที่ประชุม ก.ค.ศ.ในเดือนพฤศจิกายนนี้
ปลัด ศธ.กล่าวต่อไปว่า ก.ค.ศ.ได้มอบให้ สพฐ.จัดทำปฏิทินการคัดเลือกผอ.สถานศึกษา และ รอง ผอ.สถานศึกษา ซึ่งคาดว่าจะสามารถบรรจุผอ.สถานศึกษา ที่มีอัตราว่างอยู่ 4,004 ตำแหน่งในปลายเดือนธันวาคมนี้ และหากเป็นไปตามกำหนดดังกล่าวก็จะสามารถสอบคัดเลือก รองผอ.สถานศึกษา ซึ่งว่างอยู่ประมาณ 2,000 ตำแหน่ง ได้ภายในกลางเดือนมกราคม 2560 เพื่อให้สามารถสอบบรรจุครูผู้ช่วยให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2560
"ผู้ที่ผ่านการคัดเลือก ผอ.สถานศึกษาตามหลักเกณฑ์ใหม่นี้ เมื่อผ่านการอบรมและได้รับการแต่งตั้งในสถานศึกษาแล้ว ภายในระยะเวลา 1 ปี ต้องได้รับการประเมิน ผลการปฏิบัติงานในหน้าที่ ซึ่ง สพฐ. จะต้องไปกำหนดตัวชี้วัดที่จะใช้ประเมินการทำงาน ซึ่งอาจจะให้มีการประเมินในทุกๆ 6 เดือน เพื่อพัฒนางาน ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อคัดคนออก ดังนั้นจึงต้องสร้างความเข้าใจให้ตรงกัน ส่วนผู้ที่ไม่ผ่านการประเมินจะมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อนครบ 1 ปี โดย ก.ค.ศ.กำหนดอัตรากำลังทดแทนเพื่อรองรับ ผอ.สถานศึกษาที่ไม่ผ่านประเมินด้วย" ดร.ชัยพฤกษ์ กล่าวและว่า ทั้งนี้หลักเกณฑ์ประเมินผอ.สถานศึกษาดังกล่าวจะใช้เฉพาะผู้ที่สอบผ่านการคัดเลือกในปี 2559 เท่านั้น ส่วนผู้ที่ได้รับการขึ้นบัญชีไว้ก่อนหน้านี้ จำนวน 577 คน ใน 43 เขตพื้นที่การศึกษา หากได้รับการแต่งตั้งในปีนี้ ไม่ต้องเข้ารับการประเมินตามเงื่อนไขใหม่ เพราะถือว่าสอบคัดเลือกเข้ามาตามหลักเกณฑ์เดิม
ที่มา : kroobannok.com
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
