นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับปัญหาคดีทุจริตในสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการสอบสวนฯ ได้ตรวจสอบข้าราชการ สกสค.ที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการนำเงินไปลงทุนซื้อตั๋วสัญญาใช้เงินกับบริษัทบิลเลี่ยน อินโนเวเท็ดกรุ๊ป จำกัด 2 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2556 จำนวน 2,100 ล้านบาท และเมื่อวันที่ 1 ส.ค.2557 จำนวน 400 ล้านบาท พบว่ามีข้าราชการ สกสค.จำนวน 6 ราย เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทบิลเลี่ยนฯชัดเจน คณะกรรมการสอบสวนฯจึงได้มีมติเสนอให้มีการลงโทษวินัยร้ายแรง โดยจะสรุปผลการสอบสวนดังกล่าวเสนอบอร์ด สกสค.ได้ภายในเดือน มิ.ย.นี้ “ส่วนที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติชี้มูลความผิดให้ลงโทษวินัยร้ายแรง อดีตผู้บริหาร สกสค.และบริษัทบิลเลี่ยน อินโนเวเท็ดกรุ๊ป จำกัด 20 คนนั้น ถือเป็นการชี้มูลที่เป็นแนวทางเดียวกันกับที่คณะกรรมการสอบสวนฯ ชุดที่ผมเป็นประธาน และเมื่อดูจากข้อกฎหมายและระเบียบต่างๆ จะเห็นว่าวินัยร้ายแรงที่ ป.ป.ช.ชี้มูลนั้นมีโทษขั้นสูงสุดคือการไล่ออกจากราชการเพียงสถานเดียวเท่านั้น จะไม่ให้มีการลงโทษด้วยการปลดออก” นายอรรถพลกล่าว ด้าน ดร.พิษณุ ตุลสุข รองปลัด ศธ.ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค. กล่าวว่า ป.ป.ช.ยังไม่ได้แจ้งมติการชี้มูลความผิดให้ลงโทษวินัยร้ายแรงอดีตผู้บริหาร สกสค.มาให้สำนักงาน สกสค. หากส่งมาถึงตนจะหารือกับฝ่ายกฎหมายเพื่อดำเนินการตามขั้นตอน และเสนอให้บอร์ด สกสค.ได้พิจารณาต่อไป.
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
