ศธ.มึนยอดหนี้ครูกู้สหกรณ์ทะลุ 8.74 แสนล้าน

ยอดหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา พุ่งสูงถึง 1.4 ล้านล้านบาท เฉพาะสหกรณ์ออมทรัพย์ครู 109 แห่งมีหนี้รวมกว่า 8.74 แสนล้านบาท ศธ.เตรียมนัดเจรจาแก้ปัญหาหนี้สินระยะยาว

     เมื่อวันที่ 1 ก.ค. นายอนุชา บูรพชัยศรี เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาของ ศธ. เปิดเผยว่า

ตามที่ได้หารือแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินครูกับธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย และ ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.)  นั้นขณะนี้ใกล้ได้ข้อสรุปแล้วมาตรการต่าง ๆในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูแล้ว และเตรียมเสนอให้นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศธ. พิจารณาต่อไป

อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบหนี้สินครูในภาพรวม พบว่า หนี้ก้อนใหญ่ที่สุดของครูและบุคลากรทางการศึกษา กว่า 8.74 แสนล้านบาทเป็นของสหกรณ์ออมทรัพย์ครู 109 แห่ง ส่วนธนาคารออมสิน ครูมีหนี้  3.9 แสนล้านบาท ธนาคารกรุงไทย ครูมีหนี้ประมาณ 6 หมื่นล้านบาท และ ธอส. ครูมีหนี้ประมาณ 6 หมื่นล้านบาท รวมยอดหนี้ทั้งหมด กว่า 1.4 ล้านล้านบาท

" เฉพาะปี 2562 สหกรณ์ออมทรัพย์ครู 109 แห่ง ปล่อยกู้ทั้งหมด 3.78 แสนล้านบาท  โดยร้อยละ 33 กู้ไปใช้ส่วนตัว ร้อยละ 23 กู้เพื่อชำระหนี้สินเดิม ร้อยละ 17 กู้เพื่อซื้อบ้านและที่ดิน และร้อยละ12 กู้เพื่อนำไปใช้ในเรื่องอื่นๆ และยังพบว่า เหตุที่วงเงินกู้ในปี 2562 ค่อนข้างมาก เพราะมีการเปลี่ยนสัญญากู้ ซึ่งมีทั้งการจัดรีไฟแนนซ์ และปล่อยให้กู้เพิ่ม ทำให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูไม่มีปัญหาเรื่องหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ หนี้ NPL ดังนั้นจึงไม่สามารถบอกได้ว่าการกู้ในปี 2562 เป็นหนี้ที่เกิดขึ้นใหม่ทั้งหมด"เลขานุการ รมว.ศธ.กล่าว

 นายอนุชา กล่าวต่อไปว่า ตนมีการหารือกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ทั้งหมด 109 แห่ง โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ ในวันที่ 20 ก.ค.นี้ หารือกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ที่มีทุนมากกว่าหนี้ วันที่ 21 ก.ค.2563 หารือกับกลุ่มที่มีหนี้มากกว่าทุน และวันที่ 22 ก.ค.2563 หารือกับกลุ่มที่ไม่ใช่สหกรณ์จังหวัด โดย ศธ.จะเสนอแนวทางแก้ปัญหาหนี้สินครูเบื้องต้น ในแนวทางเดียวกับการแก้ปัญหาหนี้สินของสถาบันการเงินทั้ง 3 แห่ง ซึ่งจะมีทั้ง พักชำระหนี้ ลดดอกเบี้ย และขยายเวลาการชำระหนี้ แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้

โดยคาดว่า มาตรการต่างๆ จะเริ่มดำเนินการได้หลังเดือนกันยายนเป็นต้นไป เนื่องจากขณะนี้ สถาบันการเงินมีมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด-19 ซึ่งครูและบุคลากรทางการศึกษา ก็ได้รับความช่วยเหลือตามมาตรการดังกล่าวด้วย