ศธ.คาดพร้อมเปิดเรียน1ก.พ.นี้ จ่อให้เด็กเลื่อนชั้นอัตโนมัติ

ศธ.คาดพร้อมเปิดเรียน1ก.พ.นี้ จ่อให้เด็กเลื่อนชั้นอัตโนมัติ


การศึกษา เป็นเครื่องมือชี้วัดคุณภาพและศักยภาพในด้านต่าง ๆ ของประเทศ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมและสร้างทุนมนุษย์ (Human Capital) ที่มีความสามารถในการแข่งขันเท่าเทียมกับนานาอารยะประเทศและเท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงของศตวรรษที่ 21

การพัฒนาคุณภาพทางการศึกษา เป็นสิ่งที่สำคัญและมีความจำเป็นเร่งด่วน จากการลงพื้นที่สำรวจ พบว่าโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กว่า 15,000 โรงเรียน เป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่มีจำนวนนักเรียนน้อยกว่า120 คน การบริหารจัดการด้านงบประมาณที่มีอยู่ไม่สามารถพัฒนาคุณภาพทางการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การจัดสรรบุคลากรทางการศึกษาไม่สามารถทำได้อย่างทั่วถึง ส่งผลต่อการเรียนการสอนที่ให้ประสิทธิผลของผู้เรียนนอกจากนี้จากสถิติการเกิดของเด็กในปัจจุบันมีแนวโน้มที่ลดลงสวนทางกับจำนวนโรงเรียนที่มีเพิ่มมากขึ้น จึงต้องมีการบริหารจัดการให้มีความสอดคล้องเท่าทันไปกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต

นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า ตามแนวคิดที่ต้องการจัดการศึกษาที่ให้ประโยชน์สูงสุดต่อผู้เรียน เพื่อสร้างทุนมนุษย์ที่มีศักยภาพและสามารถเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนของประเทศจึงได้เกิดแผนบูรณาการการศึกษาทั่วประเทศขึ้น โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับการศึกษาในทุกตารางนิ้วของประเทศไทย โดยได้วางแผนให้มีการบริหารจัดการงบประมาณที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างโรงเรียนคุณภาพให้กับชุมชน มีพื้นที่ให้นักเรียนได้เรียนรู้และทำกิจกรรม สร้างตึกและอาคารเรียนที่ได้มาตรฐานระดับสากล จัดสรรบุคลากรทางการศึกษาที่มีอยู่ในระบบให้เข้าถึงในทุกโรงเรียน

ทั้งนี้ การบริหารจัดการแผนบูรณาการการศึกษาในครั้งนี้มุ่งเน้นการทำงานที่เชื่อมโยงประสานกันของบุคลากรกระทรวงศึกษาธิการทั่วประเทศ โดยแผนการดำเนินงานนั้นไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาการศึกษาเท่านั้น แต่ยังดำเนินงานให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาประเทศและบริบทของแต่ละจังหวัดอีกด้วย

"หลังจากที่ผมได้ลงพื้นที่และศึกษาข้อมูลกว่า 1 ปีที่อยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ต้องยอมรับว่าได้พบปัญหาในการบริหารจัดการการศึกษาให้มีคุณภาพอยู่มาก ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้เป็นการรื้อระบบการศึกษา เพื่อสร้างคุณภาพใหม่ทั้งระบบ สร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวยสำหรับเด็ก ๆ โดยใช้ความร่วมมือร่วมใจของบุคลากรทางการศึกษาที่มีอยู่ทั้งหมดของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งแผนบูรณาการนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างคุณภาพการศึกษาไทยอย่างยั่งยืน" รมว.ศธ.กล่าว

ผลของการดำเนินงานครั้งนี้เด็ก ๆ ซึ่งเป็นอนาคตของเราจะไม่เพียงได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกในเรื่องของสิ่งแวดล้อมทางการศึกษาที่มีความสมบูรณ์มากขึ้น แต่จะได้รับการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพจากการที่มีครูครบชั้นครบวิชา ในแต่ละโรงเรียนได้รับเงินอุดหนุนที่สามารถจัดการทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้านคุณครูเมื่อครูครบชั้นก็จะลดเวลาลดภาระงานและพุ่งเป้าหรือให้ความสำคัญในการพัฒนาการเรียนการสอนให้กับเด็ก ๆ ได้มากขึ้น

​"สิ่งที่กระทรวงศึกษาธิการจะต้องคิดจากนี้ต่อไปก็คือเราจะใช้พื้นที่โรงเรียนบางส่วนในการพัฒนาสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับชุมชน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่การเรียนรู้เพิ่มเติมสำหรับเด็ก ๆ การสร้างคอมมูนิตี้หรือหอพักสำหรับคุณครู หรือมุ่งหวังถึงการเป็นพื้นที่สำหรับพัฒนาทักษะๆ เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตของคนในชุมชนให้สอดคล้องกับบริบทของแต่ละจังหวัดอีกด้วย" นายณัฏฐพลกล่าว

สำหรับ แผนบูรณาการการศึกษาดังกล่าว ได้มีการลงพื้นที่สำรวจและพัฒนาโดยการใช้พื้นที่ จ.ภูเก็ตเป็นต้นแบบ ซึ่งจ.ภูเก็ตมีความโดดเด่นเรื่องของการท่องเที่ยวและบริการ โดยเฉลี่ยในแต่ละปีนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า18% เลือกเดินทางสู่ จ.ภูเก็ต สร้างรายได้กว่า 29% ของรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งประเทศ ดังนั้นแนวทางการพัฒนาการศึกษานอกจากจะมุ่งเน้นทางด้านวิชาการแล้ว ก็มีแนวคิดที่จะเสริมทักษะด้านภาษาที่สองและสามให้กับนักเรียน นักศึกษาสร้างโรงเรียนฝึกอาชีพเพื่อรองรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เป็นต้น

โดยแนวทางการพัฒนาโรงเรียนใน จ.ภูเก็ตนั้นได้วางเป็น 3 แนวทางหลัก คือ แนวทางที่ 1​โรงเรียนคุณภาพชุมชนระดับประถมศึกษาแนวทางที่ 2 ​โรงเรียนขนาดเล็กที่สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมีคุณภาพ (Stand Alone)แนวทางที่ 3​ยกระดับโรงเรียนมัธยมดีสี่มุมเมือง​

จากการศึกษาเบื้องต้นตามแผนพัฒนาโรงเรียนใน 3รูปแบบส่งผลให้เงินงบประมาณให้กับโรงเรียนใน จ.ภูเก็ตสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้จากการประชุมได้มอบหมายให้ตัวแทนจากทั้ง 77 จังหวัดได้ทำแผนพัฒนาในจังหวัดของตนเองเพื่อนำเสนอแนวทางพัฒนารวมถึงการพิจารณาวางแผนงบประมาณที่ต่อเนื่องต่อไป

สิ่งที่กระทรวงศึกษาธิการจะทำต่อไปคือการใช้พื้นที่โรงเรียนบางส่วนในการพัฒนาสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับชุมชน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่การเรียนรู้เพิ่มเติมสำหรับเด็ก ๆ การสร้างหอพักสำหรับคุณครู รวมไปถึงพื้นที่สำหรับพัฒนาทักษะ เพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิตของคนในชุมชนให้สอดคล้องกับบริบทของแต่ละจังหวัด

สุดท้ายในส่วนของการสอบกลางและปลายภาคในช่วงโควิด-19 จะยังไม่มีการสอบออนไลน์ยังมีการวางแผนไว้ตามเดิม ในหลาย ๆ ประเทศตอนนี้เนื่องจากสถานการณ์โควิดได้อนุญาตให้เด็กมีการเลื่อนชั้นโดยอัตโนมัติ เนื่องจากการเรียนการสอนในช่วงโควิดมีการเลื่อมล้ำ ในแต่ละคนจึงได้ความรู้ไม่เท่ากัน จึงมีความยืดหยุ่นพอสมควร และจะมีการเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการสถานการณ์ และในส่วนของการสอบ GAT/PAT ทางสทศ.กำลังหาลือกับ สพฐ.อาจยืดเวลาในการสอบออกไปก่อน


เครดิตแหล่งข้อมูล : www.bangkokbiznews.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์