ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์ ภิรมย์ กมลรัตนกุล ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูประบบสาธารณสุขด้านการคลังสุขภาพและระบบประกันสุขภาพ เปิดเผยว่า เนื่องจากในปัจจุบันอาชีพนี้มีความต้องการสูงมาก เพราะแพทย์ที่มีอยู่ไม่เพียงพอต่อการรองรับ การรักษาของประชาชนได้อย่างทั่วถึง ทำให้ภาครัฐเล็งเห็นถึงปัญหาสำคัญตรงนี้ และต้องการเพิ่มบุคลากรในสายวิชาชีพนี้ โดยคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กำลังเร่งผลิตบุคลากรในส่วนนี้ และคาดว่าอีก 10 ปีข้างหน้าจะมีแพทย์เพียงพอต่อประชากรในประเทศ พร้อมเสิร์ฟในโรงพยาบาลต่างๆ ของภาครัฐ ที่สำคัญคณะแพทย์ฯ ของเรามีความพร้อมในการปรับตัวเพื่อก้าวเข้าสู่ยุค 4.0 ยุคที่การแพทย์มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ระบบการทำงาน วิธีการรักษา อุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ ในการรักษา ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะสิทธิประโยชน์ที่คนไทยพึงมีภายใต้หลักประกันสุขภาพของประกันสังคม และ สปสช. สามารถเข้ารักษาอาการเจ็บป่วยได้ ซึ่งโรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง ตระหนักในข้อนี้เป็นสำคัญ มุ่งพัฒนาให้คุณภาพชีวิตของคนไทยดีขึ้น
ศ.นพ. ภิรมย์ กล่าวต่อว่า การจัดงานในครั้งนี้เป็นความร่วมมือของคณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ และสโมสรนิสิตคณะแพทย์ฯ บรรยากาศในวันนี้ถือว่าได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี จากน้องๆ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เพราะมีผู้สมัครเข้ามาอย่างล้นหลาม ตามเป้าที่ตั้งไว้ ภายในงานยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมาก อาทิ การแข่งขันตอบปัญหาชีววิทยาและวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อทดสอบน้องๆ ทำให้พวกเขาได้เห็นลักษณะของข้อสอบ เรียกว่าเป็นการชิมลางก่อนการสอบเข้าจริง ถือเป็นการเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้น เพราะความรู้ไม่ใช่มีแค่ในตำราเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีการคิดนอกกรอบ นำเอาความคิดสร้างสรรค์เข้ามาประยุกต์ใช้ในวงการแพทย์ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย อุปกรณ์การแพทย์ที่มีการพัฒนาขึ้น และล้ำสมัยขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน