ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อปฏิรูปการศึกษา เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษาว่า ที่ประชุมได้เชิญ รศ.นราพร จันทร์โอชา รองประธานมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เข้ามาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2549 โดย เห็นว่าระบบการศึกษาทางไกลสามารถช่วยลดความ เหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้ ขณะนี้เรามีโรงเรียนขนาดเล็กที่มีเด็กต่ำกว่า 120 คนประมาณ 15,000 โรง และยังมีครูผู้สอนไม่ครบชั้น ไม่ครบห้อง ถือ เป็นปัญหาใหญ่ การแก้ปัญหาด้วยการเพิ่มจำนวนครูไม่ใช่คำตอบ แต่เห็นว่าการใช้การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม หรือครูตู้ แม้จะมีข้อจำกัดแต่ก็เกิดประโยชน์ในการช่วยยกระดับคุณภาพการศึกษา สร้างความเท่าเทียมและการเข้าถึงโอกาสทางการศึกษาได้
ประธานกรรมการอิสระฯ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาแล้วเห็นว่าจะช่วยให้การปฏิรูป การศึกษาบรรลุผลได้ จึงเห็นชอบให้ขยายการศึกษา ทางไกลผ่านดาวเทียม และระบบดิจิทัล โดยมอบให้คณะอนุกรรมการปฏิรูปการศึกษาด้านต่างๆที่เกี่ยวข้องนำเรื่องนี้เข้ามาสู่การปฏิรูปการศึกษา อาทิ การดูแลเด็กเล็ก การพัฒนาครู อย่างไรก็ตาม ที่ประชุม เห็นว่าแม้ระบบการศึกษาทางไกลอาจยังไม่ใช่คำตอบ ที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาคุณภาพการศึกษาทั้งหมด แต่เชื่อว่าจะทำให้คุณภาพการศึกษาดีขึ้น และความเท่าเทียมทางการศึกษามีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ คณะกรรมการอิสระฯมีเวลาในการทำงาน 2 ปี แต่มีความคล่องตัวสามารถยืดหยุ่นการปฏิบัติงานได้ ดังนั้น หากมีข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะใดต่อรัฐบาลก็จะทยอยนำเสนอรัฐบาลทันที รวมทั้งเรื่องของกฎหมาย
“ขณะนี้คณะกรรมการอิสระฯกำลังพิจารณายกร่าง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ... ขึ้นมาใหม่ โดยยกเลิก พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 พ.ศ.2545 และฉบับที่ 3 พ.ศ.2553 ซึ่งจะยึดร่างเดิมที่นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะอนุกรรมการปรับปรุง พ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 ได้ดำเนินการไว้ส่วนหนึ่งแล้ว ซึ่งในร่าง พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ... ที่จะยกร่างขึ้นใหม่จะยึดหลักการใหม่ตามที่รัฐธรรมนูญใหม่กำหนด พร้อมทั้งการแยกเรื่องการแบ่งส่วนราชการของกระทรวงศึกษาธิการออกมาเป็นกฎหมายลูก.