ผศ.ดร.รัฐกรณ์ คิดการ ที่ปรึกษาประธานที่ประชุมประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการแห่งประเทศไทย(ทปสท.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น โดยให้เพิกถอนมติสภามหาวิทยาลัยราชภัฎ(มรภ.)กาญจนบุรี ที่แต่งตั้งนายปัญญา การพานิช เป็นรักษาราชการแทนอธิการบดีมรภ.กาญจนบุรี เพราะเป็นมติที่ไม่ชอบด้วยกฏหมาย เนื่องจากตำแหน่งอธิการบดี เป็นตำแหน่งประเภทผู้บริหารตาม มาตรา 18(ข)พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาพ.ศ. 2547 และมาตรา 55(2) ของพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว ระบุ ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาพ้นจากราชการตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ โดยที่พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ พ.ศ.2494 มาตรา 19 กำหนดหลักเกณฑ์ในเรื่องอายุว่าข้าราชการซึ่งมีอายุครบ60 ปีบริบูรณ์แล้วเป็นอันพ้นจากราชการ ดังนั้นแม้มาตรา 29 พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ.2547 จะไม่ได้กำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรักษาราชการอธิการบดีหรือดำรงตำแหน่งอธิการบดีในเรื่องอายุไว้แต่ถือว่าคุณสมบัติในเรื่องอายุเป็นคุณสมบัติที่ต้องนำมาปรับใช้กับผู้ที่ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีทั้งที่มาจากผู้ที่เป็นข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาหรือไม่ได้เป็นข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ซึ่งมีอายุครบ60 ปีบริบูรณ์แล้วด้วยเช่นกัน ขณะที่นายปัญญา เกษียณอายุราชการไปตั้งแต่ปี 2550 จึงขาดคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งรักษาราชการอธิการบดี
ศาลปกครองสูงสุดตัดสินแล้ว อายุเกิน60นั่งอธิการบดีได้หรือไม่?!
“ขณะนี้ในมหาวิทยาลัยราชภัฎและมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกว่าครึ่งได้เปิดให้คนที่อายุเกิน 60 ปีหรือเกษียณอายุราชการแล้วมาเป็นอธิการบดีมหาวิทยาลัย ซึ่งไม่ชอบด้วยกฏหมาย และที่ผ่านมาทปสท.เคยยื่นเรื่องให้องค์กรอิสระ เช่น สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) รมว.ศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา(สกอ.) เป็นต้น เพื่อขอให้พิจารณาเรื่องนี้ เนื่องจากศาลชั้นต้นได้ตัดสินแล้วว่าคนที่อายุเกิน 60 ปีเป็นอธิการบดีไม่ได้ แต่หลายหน่วยงานอ้างว่าคำสั่งนี้เป็นแค่ศาลชั้นต้น อีกทั้งคำสั่งศาลจะผูกพันเฉพาะกรณีที่ฟ้องร้องกัน จึงยังไม่มีการพิจารณาเรื่องนี้และรอคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ขณะนี้ศาลปกครองสูงสุดตัดสินแล้ว เร็ว ๆนี้ ทปสท.จะนำคำพิพากษานี้ไปยื่นเพิ่มเติมให้ ป.ป.ช. สตง. รมว.ศึกษาธิการ และสกอ. พิจารณาอีกครั้ง อย่างไรก็ตามเชื่อว่าหากองค์อิสระชี้ตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุด ก็จะเป็นบรรทัดฐานให้มหาวิทยาลัยจะต้องดำเนินการ ไม่เช่นนั้นถือว่าไม่ปฎิบัตามตามกฏหมาย” ผศ.ดร.รัฐกรณ์ กล่าว
ที่มา dailynews.co.th