
เช็กเลย กยศ. ตอบลูกหนี้ หักเงินเพิ่ม 3,000 บาท พร้อมเปิดวิธีแก้ไข
หน้าแรกTeeNee การศึกษา ข่าวการศึกษา เช็กเลย กยศ. ตอบลูกหนี้ หักเงินเพิ่ม 3,000 บาท พร้อมเปิดวิธีแก้ไข

ทางกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ได้ออกมาชี้แจงกรณีที่ กยศ. ได้แจ้งนายจ้างให้หักเงินเดือนเพื่อชำระเงินกู้ยืมคืนจากผู้กู้ยืมที่ค้างชำระหนี้ โดยให้หักเพิ่มรายละ 3,000 บาท สำหรับผู้กู้ยืมที่มีสถานะค้างชำระ โดยไม่รวมผู้ที่ได้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับ กยศ. แล้ว มีผลตั้งแต่เดือนเมษายน 2568 เป็นต้นไป
วันนี้ (9 เม.ย.68) ดร.นันทวัน วงศ์ขจรกิตติ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า กยศ. ขอชี้แจงว่าเนื่องด้วย กยศ. ได้ดำเนินการติดตามหนี้ผู้กู้ยืมทุกรายที่ยังมียอดหนี้ค้างชำระ ซึ่งรวมถึงผู้กู้ยืมที่อยู่ในระบบหักเงินเดือน
โดยก่อนหน้านี้ กยศ. ได้แจ้งหักเงินเดือนซึ่งไม่ได้นำยอดหนี้ค้างชำระเดิมของผู้กู้ยืมมารวมในการแจ้งหักเงินเดือนด้วย และได้แจ้งให้ผู้กู้ยืมมีหน้าที่ชำระเงินยอดหนี้ค้างชำระด้วยตนเองให้ครบถ้วน แต่ผู้กู้ยืมบางรายไม่ได้มีการชำระเงินดังกล่าวจึงทำให้มียอดหนี้ค้างสะสม
และบางรายได้ขอลดจำนวนเงินหักเงินเดือนแต่ไม่ได้ชำระส่วนต่างให้ครบถ้วนภายในวันที่ 5 กรกฎาคมของงวดปีนั้นๆ ดังนั้น กยศ. จึงมีความจำเป็นในการเพิ่มจำนวนเงินที่หักต่อเดือนบัญชีละ 3,000 บาท
"ซึ่ง กยศ. ได้จัดส่งหนังสือแจ้งไปยังที่อยู่ตามทะเบียนราษฎร์ให้ผู้กู้ยืมและได้ส่งอีเมลให้นายจ้างทราบแล้ว โดยสามารถตรวจสอบยอดหนี้ค้างชำระได้ด้วยตนเองผ่านแอป กยศ.Connect" ดร.นันทวันกล่าว
ทั้งนี้ กยศ. ขอเชิญชวนให้ผู้กู้ยืมที่มียอดหนี้ที่ค้างชำระมาปรับโครงสร้างหนี้ออนไลน์ได้ด้วยตนเองผ่านเว็บไซต์ www.studentloan.or.th เพื่อได้รับสิทธิขยายระยะเวลาผ่อนชำระอีก 15 ปี ปลดภาระผู้ค้ำประกันและลดเบี้ยปรับ 100% ซึ่งจะทำให้การแจ้งหักเงินเดือนในเดือนถัดไปมียอดที่ลดลงตามเงื่อนไขในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้
สำหรับกรณีกองทุนฯ เพิ่มจำนวนหักเงินเดือนบัญชีละ 3,000 บาท (สำหรับผู้กู้ยืม) กยศ. เปิดเผยข้อมูลถึงเหตุที่ต้องหักเงิน รวมถึงได้ให้วิธีการแก้ไขไว้แล้ว
ถาม : ถูกหักเงินเดือนทุกเดือน ทำไมมียอดค้างชำระ?
ตอบ : ยอดค้างชำระหนี้ของผู้กู้ยืมอาจเกิดจาก
*มียอดค้างชำระหนี้ก่อนการหักเงินเดือน
*ในระหว่างการแจ้งหักเงินเดือน ท่านมีการขอปรับลดจำนวนการหักเงิน แล้วผู้กู้ยืมไม่ได้ไปชำระส่วนต่างในวันที่ 5 กรกฎาคมของงวดปีนั้น ๆ
*ผู้กู้ยืมสามารถตรวจสอบข้อมูลการค้างชำระหนี้ได้ด้วยตนเองผ่านทาง Mobile Application "กยศ. Connect"
ถาม : ถ้าไม่ต้องการให้นายจ้างหักเงินตามที่กองทุนฯ แจ้งในเดือนนี้ ต้องทำอย่างไร?
ตอบ : ผู้กู้ยืมสามารถเลือกปฏิบัติตามข้อใดข้อหนึ่งดังนี้:
1. ดำเนินการขอปรับโครงสร้างหนี้
*เพื่อลดจำนวนการผ่อนชำระต่อเดือน
*ขยายระยะเวลาการผ่อน
*ลดเบี้ยปรับให้ 100%
*ปลดผู้ค้ำประกัน
*โดยกองทุนจะแจ้งจำนวนเงินการหักเงินเดือนตามยอดผ่อนชำระใหม่ ในเดือนถัดจากเดือนที่ผู้กู้ยืมได้ปรับโครงสร้างหนี้แล้ว เช่น ในกรณีที่ท่านทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ ภายในเดือนเมษายน 2568 (กลุ่มข้าราชการที่ได้รับเงินเดือนจากกรมบัญชีกลาง ให้ดำเนินการภายในวันที่ 20 เมษายน 2568) กองทุนจะแจ้งยอดผ่อนชำระใหม่ในเดือนพฤษภาคม 2568 ดังนั้น เดือนเมษายน 2568 นี้ ท่านจะถูกหักเงินเดือนเพิ่ม 3,000 บาท เพียง 1 เดือนเท่านั้น
2. ชำระยอดหนี้ค้างให้เสร็จสิ้น หากผู้กู้ยืมชำระแล้ว ให้ผู้กู้ยืมเงินนำหลักฐานการชำระแจ้งต่อนายจ้าง แล้วให้นายจ้างลบยอดออก 3,000 บาท จากยอดหักเงินเดือนในเดือนเมษายน 2568 ได้
ถาม-ตอบ เรื่องการหักเงินเดือน 3,000 บาท
ทำไมเดือนนี้มีจำนวนเงินแจ้งหักเพิ่มขึ้น
*เนื่องจากผู้กู้ยืมมียอดค้างชำระหนี้นาน และมิได้ไปชำระยอดหนี้ที่ค้าง ดังนั้น กองทุนจึงแจ้งเพิ่มจำนวนเงินบัญชีละ 3,000 บาท
จะหักเงิน 3,000 บาท ไปถึงเมื่อไร
*กองทุนฯ จะหักเงินเดือนไปจนกว่า ผู้กู้ยืมทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับกองทุน หรือชำระยอดค้างจนเสร็จสิ้น
มีการหักเงินเดือนทุกเดือน ทำไมยังมีหนี้ยอดค้างชำระ
*ผู้กู้ยืมมียอดหนี้ค้างชำระที่เกิดขึ้นก่อนหักเงินเดือน หรือในระหว่างการหักเงินเดือนมีการปรับลดจำนวนเงิน ซึ่งผู้กู้ยืมเงินยังไม่ได้ชำระส่วนที่ค้างหรือส่วนต่าง จึงทำให้เกิดเป็นยอดหนี้ค้างชำระ
กองทุนมีการแจ้งให้ผู้กู้ยืมทราบหรือไม่
*กองทุนมีการแจ้งให้ทราบเป็นหนังสือ จัดส่งตามที่อยู่ทะเบียนราษฎร แจ้งผ่านไลน์ และแจ้งผ่านโนติ แอปฯ กยศ.Connect



เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!