กยศ.ขยายเวลา ‘มาตรการลดหย่อนหนี้’ ช่วยเหลือผู้กู้
กยศ.ขยายเวลา ‘มาตรการลดหย่อนหนี้' ช่วยเหลือผู้กู้ยืม ถึง 31 ธ.ค. 65 หวังจูงใจให้ชำระเงินคืน
.
กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ขยายระยะเวลามาตรการลดหย่อนหนี้ช่วยเหลือผู้กู้ยืมต่อเนื่องจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 โดยลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเหลือ 0.01% ต่อปี ลดเงินต้น 5% ลดเบี้ยปรับ 80-100% ลดอัตราการคิดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% ต่อปี เงื่อนไขเป็นไปตามที่กองทุนกำหนด
.
นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า
"ในช่วงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่ผ่านมา กองทุนได้มีมาตรการลดหย่อนหนี้เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ
.
โดยขณะนี้ คณะกรรมการกองทุนฯ ได้เห็นชอบขยายระยะเวลามาตรการลดหย่อนหนี้ดังกล่าว เพื่อเป็นการจูงใจให้ผู้กู้ยืมมาชำระเงินคืน จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2565 เป็นสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 รวมระยะเวลา 6 เดือน"
.
โดยมีเงื่อนไขมาตรการลดหย่อนหนี้ ดังนี้
1. ลดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจากเดิม 1% ต่อปี เป็น 0.01% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกองทุนและไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้
2. ลดเงินต้น 5% กรณีชำระหนี้ปิดบัญชี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ไม่เคยเป็นผู้ผิดนัดชำระหนี้
3. ลดเบี้ยปรับ 100% สำหรับผู้กู้ยืมเงินทุกกลุ่มที่ชำระหนี้ปิดบัญชี ดังนี้
3.1 ผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี สามารถชำระได้ที่ธนาคารกรุงไทยและธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยทุกสาขา
3.2 ผู้กู้ยืมเงินที่ถูกดำเนินคดีแล้ว ต้องลงทะเบียนขอรับสิทธิและนัดหมายวันที่ประสงค์จะชำระหนี้ปิดบัญชีได้ที่ www.studentloan.or.th โดยผู้กู้ยืมเงินต้องชำระค่าทนายความและค่าฤชาธรรมเนียมศาลให้เสร็จสิ้นก่อนปิดบัญชี
4. ลดเบี้ยปรับ 80% สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดี เมื่อชำระหนี้ค้างทั้งหมดให้มีสถานะปกติ (ไม่ค้างชำระ)
5. ลดอัตราการคิดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% ต่อปี สำหรับผู้กู้ยืมเงินที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด.
ทั้งนี้ ผู้กู้ยืมสามารถตรวจสอบสถานะและยอดชำระได้ที่แอปพลิเคชัน กยศ. Connect หรือสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.studentloan.or.th หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ไลน์บัญชีทางการ กยศ. หรือโทร. 0 2016 4888" ผู้จัดการกองทุนฯ กล่าวในที่สุด
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น