
กยศ.ปรับโครงสร้างหนี้ ลดเบี้ยปรับ ปลดผู้ค้ำ พร้อมคืนเงินผู้กู้จ่ายเกิน
หน้าแรกTeeNee การศึกษา ทุนการศึกษา กยศ.ปรับโครงสร้างหนี้ ลดเบี้ยปรับ ปลดผู้ค้ำ พร้อมคืนเงินผู้กู้จ่ายเกิน

กยศ. เฮ! ปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหญ่ ลดเบี้ยปรับเหลือ 0.5% ปลดผู้ค้ำทันที พร้อมคืนเงินให้ผู้กู้ที่จ่ายเกิน
กรุงเทพมหานคร, 22 พฤษภาคม 2568 - กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) สร้างความหวังใหม่ให้ลูกหนี้! ดร.นันทวัน วงศ์ขจรกิตติ ผู้จัดการกองทุนฯ เผยความคืบหน้าการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 ซึ่งมีสาระสำคัญในการช่วยเหลือผู้กู้ยืมให้สามารถลดภาระหนี้และผ่อนชำระได้ตามศักยภาพ ด้วยการปรับลำดับการชำระหนี้ใหม่ การลดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ รวมถึงการคำนวณหนี้ใหม่และคืนเงินส่วนเกินให้ผู้กู้
ปลดล็อกภาระหนี้ ลดเบี้ยปรับ ปลดผู้ค้ำ
มาตรการใหม่ของ กยศ. เน้นการช่วยเหลือผู้กู้ยืมอย่างรอบด้าน:
ปรับลำดับการชำระหนี้ใหม่: จากเดิมที่ตัดเบี้ยปรับก่อน กลายเป็นการตัด เงินต้น-ดอกเบี้ย-เบี้ยปรับ ตามลำดับ ทำให้เงินที่ชำระไปถึงเงินต้นได้เร็วขึ้น
ลดอัตราดอกเบี้ย: ดอกเบี้ยลดลงเหลือเพียง 1% ต่อปี จากเดิมที่แตกต่างกัน
ลดเบี้ยปรับ: เบี้ยปรับลดลงอย่างมากจากสูงสุด 18% ต่อปี เหลือเพียง 0.5% ต่อปี
ปลดผู้ค้ำประกันทันที: ผู้กู้ที่ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้จะได้รับการ ปลดผู้ค้ำประกันทันที ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับผู้ค้ำนับแสนราย
ผ่อนชำระนานสูงสุด 15 ปี: ผู้กู้สามารถผ่อนชำระเป็นงวดเท่าๆ กันสูงสุด 15 ปี โดยต้องชำระให้เสร็จสิ้นก่อนอายุ 65 ปี
ยกเว้นเบี้ยปรับ 100%: หากชำระครบตามสัญญา กยศ. จะยกเว้นเบี้ยปรับที่ค้างทั้งหมด 100% อย่างไรก็ตาม หากผิดนัดชำระหนี้สะสมเกิน 6 งวด สัญญาจะสิ้นสุดลงและเสียสิทธิส่วนลดนี้
ปัจจุบันมีผู้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้วกว่า 598,334 บัญชี ทั้งแบบกระดาษและออนไลน์ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถสมัครผ่านเว็บไซต์ www.studentloan.or.th และยืนยันตัวตนผ่านแอป ThaiD ได้ทันที
คำนวณหนี้ใหม่ คืนเงินส่วนเกินให้ผู้กู้
กยศ. ได้ดำเนินการ คำนวณยอดหนี้ใหม่ (Recalculation) ให้แก่ผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกว่า 3.8 ล้านบัญชี โดยนำรายการชำระหนี้ทั้งหมดมาคำนวณใหม่ตาม พ.ร.บ. ฉบับใหม่ ผลการคำนวณพบว่า:
ยอดหนี้ลดลง: มีผู้กู้ยืม 3,548,016 บัญชี ที่ยอดหนี้ลดลง
ไม่มีหนี้คงเหลือ: ผู้กู้ 80 บัญชี ไม่มีหนี้คงเหลือ (ปิดบัญชี)
คืนเงินส่วนเกิน: มีผู้กู้ยืม 286,362 บัญชี ที่มีสิทธิขอรับคืนเงินที่ชำระเกิน ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนขอรับเงินคืนแล้ว 26,463 บัญชี และคืนเงินไปแล้ว 2,602 บัญชี รวม 73.70 ล้านบาท
การคืนเงิน จะทำผ่านระบบพร้อมเพย์ที่ผูกบัญชีธนาคารด้วยเลขประจำตัวประชาชนของผู้กู้ยืมเท่านั้น โดยจะแบ่งการคืนเงินเป็น 2 ส่วน:
ส่วนแรก: คืน 70% ของยอดเงินที่คำนวณได้
ส่วนที่สอง: ส่วนที่เหลือจะคืนให้เมื่อ กยศ. คำนวณหนี้ผ่านระบบ DSL แล้วเสร็จ
ผู้กู้ยืมสามารถตรวจสอบสถานะบัญชีและลงทะเบียนขอรับเงินคืนได้ที่เว็บไซต์ https://slfrecalculation.studentloan.or.th/ หากมีสิทธิได้รับเงินคืน จะได้รับเงินภายในเดือนพฤษภาคม 2568
ดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากการหักเงินเดือน พร้อมโปรโมชันปิดหนี้
สำหรับผู้กู้ที่ได้รับผลกระทบจากการหักเงินเดือนเพิ่ม 3,000 บาทต่อบัญชี กยศ. มีแนวทางดูแลดังนี้:
กลุ่มที่ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้ว: ต้องชำระงวดแรกเองพร้อมแจ้งนายจ้างทราบ จากนั้นเริ่มหักเงินเดือนตามสัญญาใหม่ในงวดที่ 2
กลุ่มที่ยังไม่ทำสัญญา: สามารถยื่นขอลดจำนวนเงินหัก 3,000 บาทได้ผ่านเว็บไซต์ กยศ. ภายในวันที่ 24 พ.ค. (งวด พ.ค.) หรือ 14 มิ.ย. (งวด มิ.ย.) โดย กยศ. จะพิจารณาและแจ้งผลผ่าน SMS
นอกจากนี้ กยศ. ยังได้ออกมาตรการ ลดหย่อนหนี้ เพื่อส่งเสริมให้ผู้กู้ปิดบัญชีในช่วง 1 มีนาคม - 31 พฤษภาคม 2568 โดยมอบส่วนลดต้นเงิน 5-10% และส่วนลดเบี้ยปรับ 100% สำหรับผู้กู้ที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและยังอยู่ในระยะเวลาปลอดหนี้หรือกำลังชำระหนี้อยู่ ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนขอรับสิทธิได้ทางเว็บไซต์ กยศ.
สรุปสิ่งที่ผู้กู้ กยศ. ต้องทราบและดำเนินการ:
ตรวจสอบสิทธิรับเงินคืนด่วน: ภายในเดือนพฤษภาคม 2568 ที่ https://slfrecalculation.studentloan.or.th/
ผูกพร้อมเพย์: อย่าลืมผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชนเพื่อรับเงินคืน
ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้: สามารถทำได้ทันทีผ่านระบบออนไลน์
โปรโมชันปิดหนี้: หากปิดบัญชีเร็ว มีส่วนลดต้นเงินและเบี้ยปรับให้จริง
มาตรการใหม่นี้ไม่เพียงช่วยลดภาระให้กับผู้กู้ แต่ยังเพิ่มความโปร่งใสในการบริหารหนี้ และส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้รุ่นต่อไป เพื่อให้เยาวชนไทยเติบโตอย่างมีคุณภาพและมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
กยศ. ขอเชิญชวนผู้กู้ยืมทุกคนที่เคยได้รับโอกาสจาก กยศ. ชำระเงินคืน เพื่อเป็นทุนหมุนเวียน
กรุงเทพมหานคร, 22 พฤษภาคม 2568 - กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) สร้างความหวังใหม่ให้ลูกหนี้! ดร.นันทวัน วงศ์ขจรกิตติ ผู้จัดการกองทุนฯ เผยความคืบหน้าการดำเนินงานตามพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2566 ซึ่งมีสาระสำคัญในการช่วยเหลือผู้กู้ยืมให้สามารถลดภาระหนี้และผ่อนชำระได้ตามศักยภาพ ด้วยการปรับลำดับการชำระหนี้ใหม่ การลดดอกเบี้ยและเบี้ยปรับ รวมถึงการคำนวณหนี้ใหม่และคืนเงินส่วนเกินให้ผู้กู้
ปลดล็อกภาระหนี้ ลดเบี้ยปรับ ปลดผู้ค้ำ
มาตรการใหม่ของ กยศ. เน้นการช่วยเหลือผู้กู้ยืมอย่างรอบด้าน:
ปรับลำดับการชำระหนี้ใหม่: จากเดิมที่ตัดเบี้ยปรับก่อน กลายเป็นการตัด เงินต้น-ดอกเบี้ย-เบี้ยปรับ ตามลำดับ ทำให้เงินที่ชำระไปถึงเงินต้นได้เร็วขึ้น
ลดอัตราดอกเบี้ย: ดอกเบี้ยลดลงเหลือเพียง 1% ต่อปี จากเดิมที่แตกต่างกัน
ลดเบี้ยปรับ: เบี้ยปรับลดลงอย่างมากจากสูงสุด 18% ต่อปี เหลือเพียง 0.5% ต่อปี
ปลดผู้ค้ำประกันทันที: ผู้กู้ที่ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้จะได้รับการ ปลดผู้ค้ำประกันทันที ซึ่งเป็นข่าวดีสำหรับผู้ค้ำนับแสนราย
ผ่อนชำระนานสูงสุด 15 ปี: ผู้กู้สามารถผ่อนชำระเป็นงวดเท่าๆ กันสูงสุด 15 ปี โดยต้องชำระให้เสร็จสิ้นก่อนอายุ 65 ปี
ยกเว้นเบี้ยปรับ 100%: หากชำระครบตามสัญญา กยศ. จะยกเว้นเบี้ยปรับที่ค้างทั้งหมด 100% อย่างไรก็ตาม หากผิดนัดชำระหนี้สะสมเกิน 6 งวด สัญญาจะสิ้นสุดลงและเสียสิทธิส่วนลดนี้
ปัจจุบันมีผู้ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้วกว่า 598,334 บัญชี ทั้งแบบกระดาษและออนไลน์ ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถสมัครผ่านเว็บไซต์ www.studentloan.or.th และยืนยันตัวตนผ่านแอป ThaiD ได้ทันที
คำนวณหนี้ใหม่ คืนเงินส่วนเกินให้ผู้กู้
กยศ. ได้ดำเนินการ คำนวณยอดหนี้ใหม่ (Recalculation) ให้แก่ผู้กู้ยืมที่อยู่ระหว่างการชำระเงินคืนกว่า 3.8 ล้านบัญชี โดยนำรายการชำระหนี้ทั้งหมดมาคำนวณใหม่ตาม พ.ร.บ. ฉบับใหม่ ผลการคำนวณพบว่า:
ยอดหนี้ลดลง: มีผู้กู้ยืม 3,548,016 บัญชี ที่ยอดหนี้ลดลง
ไม่มีหนี้คงเหลือ: ผู้กู้ 80 บัญชี ไม่มีหนี้คงเหลือ (ปิดบัญชี)
คืนเงินส่วนเกิน: มีผู้กู้ยืม 286,362 บัญชี ที่มีสิทธิขอรับคืนเงินที่ชำระเกิน ปัจจุบันมีผู้ลงทะเบียนขอรับเงินคืนแล้ว 26,463 บัญชี และคืนเงินไปแล้ว 2,602 บัญชี รวม 73.70 ล้านบาท
การคืนเงิน จะทำผ่านระบบพร้อมเพย์ที่ผูกบัญชีธนาคารด้วยเลขประจำตัวประชาชนของผู้กู้ยืมเท่านั้น โดยจะแบ่งการคืนเงินเป็น 2 ส่วน:
ส่วนแรก: คืน 70% ของยอดเงินที่คำนวณได้
ส่วนที่สอง: ส่วนที่เหลือจะคืนให้เมื่อ กยศ. คำนวณหนี้ผ่านระบบ DSL แล้วเสร็จ
ผู้กู้ยืมสามารถตรวจสอบสถานะบัญชีและลงทะเบียนขอรับเงินคืนได้ที่เว็บไซต์ https://slfrecalculation.studentloan.or.th/ หากมีสิทธิได้รับเงินคืน จะได้รับเงินภายในเดือนพฤษภาคม 2568
ดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากการหักเงินเดือน พร้อมโปรโมชันปิดหนี้
สำหรับผู้กู้ที่ได้รับผลกระทบจากการหักเงินเดือนเพิ่ม 3,000 บาทต่อบัญชี กยศ. มีแนวทางดูแลดังนี้:
กลุ่มที่ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้แล้ว: ต้องชำระงวดแรกเองพร้อมแจ้งนายจ้างทราบ จากนั้นเริ่มหักเงินเดือนตามสัญญาใหม่ในงวดที่ 2
กลุ่มที่ยังไม่ทำสัญญา: สามารถยื่นขอลดจำนวนเงินหัก 3,000 บาทได้ผ่านเว็บไซต์ กยศ. ภายในวันที่ 24 พ.ค. (งวด พ.ค.) หรือ 14 มิ.ย. (งวด มิ.ย.) โดย กยศ. จะพิจารณาและแจ้งผลผ่าน SMS
นอกจากนี้ กยศ. ยังได้ออกมาตรการ ลดหย่อนหนี้ เพื่อส่งเสริมให้ผู้กู้ปิดบัญชีในช่วง 1 มีนาคม - 31 พฤษภาคม 2568 โดยมอบส่วนลดต้นเงิน 5-10% และส่วนลดเบี้ยปรับ 100% สำหรับผู้กู้ที่ยังไม่ถูกดำเนินคดีและยังอยู่ในระยะเวลาปลอดหนี้หรือกำลังชำระหนี้อยู่ ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนขอรับสิทธิได้ทางเว็บไซต์ กยศ.
สรุปสิ่งที่ผู้กู้ กยศ. ต้องทราบและดำเนินการ:
ตรวจสอบสิทธิรับเงินคืนด่วน: ภายในเดือนพฤษภาคม 2568 ที่ https://slfrecalculation.studentloan.or.th/
ผูกพร้อมเพย์: อย่าลืมผูกพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชนเพื่อรับเงินคืน
ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้: สามารถทำได้ทันทีผ่านระบบออนไลน์
โปรโมชันปิดหนี้: หากปิดบัญชีเร็ว มีส่วนลดต้นเงินและเบี้ยปรับให้จริง
มาตรการใหม่นี้ไม่เพียงช่วยลดภาระให้กับผู้กู้ แต่ยังเพิ่มความโปร่งใสในการบริหารหนี้ และส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้รุ่นต่อไป เพื่อให้เยาวชนไทยเติบโตอย่างมีคุณภาพและมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
กยศ. ขอเชิญชวนผู้กู้ยืมทุกคนที่เคยได้รับโอกาสจาก กยศ. ชำระเงินคืน เพื่อเป็นทุนหมุนเวียน
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!